in thailand kaufen ซื้อยาในไทย ปลอดภัยหรือไม่
7 ธันวาคม 2563, 10:31 น.สำหรับผู้ที่มีอาการน้องชายไม่แข็งตัว หรือแข็งตัวยาก จะขึ้นสังเวียนรักแต่ละที ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะน้องชายไม่สู้ จนทำให้เกิดปัญหาเรื่องบนเตียง ซึ่งตัวช่วยที่หลายคนจะนึกถึงและเอามาใช้ในการแก้ปัญหานี้ก็คือ ยานั่นเอง ซึ่งยาจะไปช่วยให้เลือดไหลเวียนไปยังอวัยวะเพศได้ดีขึ้น ทำให้เกิดการแข็งตัวได้ จึงทำให้มีการนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะด้วยประสิทธิภาพที่ดีและปลอดภัย ช่วยแก้ปัญหาให้คนแข็งยากได้กลับมามีชีวิตรักได้ดังเดิม ซึ่งยาที่มีขายในไทยนั้นก็มีมากมาย in thailand kaufen และการซื้อยาในไทยปลอดภัยแค่ไหน เรามีบทความดี ๆ นี้มาฝากกัน
ต้นกำเนิดยา
ก่อนที่เราจะไปรู้ถึงเรื่องของ in thailand kaufen ว่าเราสามารถซื้อยาในไทยได้ที่ไหนบ้าง และปลอดภัยแค่ไหนนั้น เรามารู้จักยาให้ดีกันก่อนดีกว่า
() ยาเสริมสมรรถภาพทางเพศที่โด่งดัง ผลิตโดยบริษัท Pfizer จากสหรัฐอเมริกา ออกสู่ตลาดในปี 2541 ซึ่งตลอดกว่า 20 ปีมานี้ ยาได้มีการแพร่หลายมาก โดยมีผู้ชายกว่า 62 ล้านคนทั่วโลกที่ซื้อยาดังกล่าว ซึ่งเป็นยาที่มีสรรพคุณในการช่วยรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ โดยจะไปทำให้อวัยวะเพศเกิดการแข็งตัว และแข็งตัวได้นานพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้ มาในรูปแบบเม็ดยาสีฟ้าทรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด และมีตัวยาสำคัญคือ Sildenafil ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ใน ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อรักษาปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายหลอดเลือดของหัวใจ โดยการปิดกั้นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า PDE-5 ก่อนที่จะพบว่าผู้ป่วยที่ทำการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดที่ได้รับยานี้นั้น ได้รับผลข้างเคียงของยา Sildenafil ที่ไปช่วยขยายหลอดเลือดที่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่นำไปสู่การแข็งตัวของอวัยวะเพศนั่นเอง และด้วยเหตุนี้ สิ่งที่เรียกว่า "ยาเพิ่มสมรรถภาพ" จึงถือกำเนิดขึ้น
ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ให้ใช้เป็นยารักษาสมรรถภาพทางเพศในปี 2541 และประมาณหนึ่งทศวรรษต่อมา นักวิจัยได้เริ่มทำการทดลองทางคลินิกใหม่เพื่อดูว่ายานี้สามารถเพิ่มปริมาณเป็นสองเท่าของยารักษาโรคหัวใจตามที่ตั้งใจไว้ได้หรือไม่ และในปี 2548 องค์การอาหารและยาได้อนุมัติสารประกอบเดียวกันกับยา เพื่อไว้ใช้สำหรับภาวะหัวใจที่เรียกว่าความดันโลหิตสูงในปอด ที่จะทำให้เลือดไหลเวียนไปที่ปอดและส่งผลต่อทั้งชายและหญิง ซึ่งยาที่ว่านั้นได้พัฒนาต่อจากยา ได้ถูกนำไปรักษาโรคความดันโลหิตสูงในปอดภายใต้ชื่อยาว่า Revatio
ปัจจุบัน ยา ได้กลายเป็นชื่อที่ใช้เรียกแทนยาในกลุ่มรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ แม้ว่าจะมีออกมาจำหน่ายในตลาดหลากหลายยี่ก้อก็ตาม แต่คนทั่วโลกก็ยังคงเรียกรวม ๆ ว่ายา ซึ่ง in thailand kaufen หรือการซื้อยาในไทยนั้น ก็สามารถทำได้และปลอดภัยเช่นกัน
ยาในกลุ่มรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ มีอะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร
ยาในกลุ่มที่ช่วยรักษาภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัวได้นั้น ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) มี 3 ชนิดด้วยกัน ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีผลข้างเคียงและระยะเวลาในการออกฤทธิ์ที่ต่างกัน และยาตัวไหนเหมาะกับใครบ้าง เพื่อการตัดสินใจได้ถูกต้องในการซื้อ in thailand kaufen มาใช้ โดยยาทั้ง 3 ชนิดดังกล่าว จะมีดังนี้
1. Sildenafil acetate (ชื่อทางการค้าคือ )
2. Vardenafil hydrochloride (ชื่อทางการค้าคือ Levitra)
3. Tadalafil (ชื่อทางการค้าคือ Cialis)
ยาทั้ง 3 ชนิดนี้ เป็นยาที่จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกัน และทำงานในลักษณะเดียวกันคือ เป็นสารยับยั้ง PDE-5 ทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าจะไปช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังร่างกาย ทำให้เลือดเข้าไปในอวัยวะเพศได้ง่ายขึ้น และช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของอวัยวะเพศ (ED) มีการแข็งตัวที่ยาวนานระหว่างการมีกิจกรรมทางเพศ โดยยาจะมีการออกฤทธิ์ค่อนข้างเร็ว จึงควรกินยาอย่างน้อย 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงก่อนการมีกิจกรรมทางเพศ แต่ระยะเวลาในการออกฤทธิ์ของยาก็จะขึ้นอยู่กับชนิดของยานั้น ๆ
การออกฤทธิ์ของยาแต่ละชนิด ต่างกันอย่างไร
ผลของยาแต่ละชนิดคงอยู่นานเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับตัวยาที่ออกฤทธิ์เป็นสำคัญ
1. ยา จะมีตัวยา sildenafil และมีขนาดยาคือ 25, 50, 100 มก. เป็นยาเม็ดแบบกลืน มีปริมาณที่ควรกินในแต่ละครั้งคือ 50-100 มก. สำหรับรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ควรกินตอนท้องว่างก่อนมีเพศสัมพันธ์ 30-60 นาที ยาจะออกฤทธิ์นาน 4 ชั่วโมง
2. ยา Levitra จะมีตัวยา vardenafil และมีขนาดยาคือ 5, 10, 20 มก. เป็นยาเม็ดแบบกลืน มีปริมาณที่ควรกินในแต่ละครั้งคือ 10 มก. แต่หากมีอายุ 65 ปีขึ้นไป แนะนำให้กิน 5 มก. สามารถกินพร้อมหรือหลังอาหารได้ แค่ระวังไม่กินอาหารที่มีไขมัน และกินก่อนมีเพศสัมพันธ์ 60 นาที ยาจะออกฤทธิ์นาน 4-5 ชั่วโมง
3. ยา Cialis จะมีตัวยา tadalafil และมีขนาดยาคือ 2.5, 5, 10, 20 มก. เป็นยาเม็ดแบบกลืน มีปริมาณที่ควรกินในแต่ละครั้งคือ 10 มก. ก่อนมีเพศสัมพันธ์ 30 นาที แต่หากต้องการกินทุกวันเพื่อรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพนั้น ควรกิน 2.5 มก. สามารถกินก่อนหรือหลังอาหารได้ โดยจะออกฤทธิ์ได้นานที่สุดในบรรดายาในกลุ่มรักษาอาการ ED คือ 36 ชั่วโมง ซึ่งคนที่ต้องการยาที่ออกฤทธิ์ได้ยาวนาน ก็อาจจะเลือกใช้เซียลิสแทน
ข้อควรระวังในการซื้อยา in thailand kaufen
ยาทั้ง 3 ชนิดนี้ เป็นยา in thailand kaufen คือสามารถซื้อได้ในไทย และยังปลอดภัย เพราะมีขายอย่างถูกกฎหมาย และสามารถหาซื้อได้ที่สถานพยาบาล ร้านขายยา และทางออนไลน์ แต่หากต้องการซื้อแบบออนไลน์ ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน ดังนี้
1. ให้ซื้อกับร้านที่ได้รับการรับรองจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) เพื่อมั่นใจได้ว่า ร้านค้านั้นขายสินค้าที่ถูกต้องและปลอดภัย ไม่ขายยาปลอมที่จะเป็นอันตรายต่อเราได้
2. เลือกซื้อยาที่อย.รับรอง เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นชนิดยาที่ได้ประสิทธิภาพ และปลอดภัยในการใช้
3. เลือกซื้อยาที่มียี่ห้อ ที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก เช่น , Kamagra, Sidegra, Apcalis, Gold Vigra เป็นต้น อย่าซื้อยี่ห้อที่เราไม่คุ้นเคยหรือไม่รู้จัก เพราะนอกจากจะเสี่ยงอันตรายแล้ว ยาที่ไม่ได้มาตรฐานในการผลิต มักจะใส่ตัวยาที่ออกฤทธิ์มาในปริมาณที่น้อย และผสมส่วนผสมอื่น ๆ มาแทน ทำให้ยาไม่ได้ประสิทธิผลที่ดีเทียบเท่ายาที่มียี่ห้อเป็นที่รู้จัก
ผลข้างเคียงที่พบ และข้อควรระวังในการใช้ยา
ยาทั้ง 3 ชนิดนั้น ล้วนมาจากสารเคมีประเภทเดียวกันและมีผลข้างเคียงและปฏิกิริยาที่คล้ายคลึงกันมาก ด้วยเพราะมีฤทธิ์ในการไปขยายเส้นเลือด จึงอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดหัว หน้าแดง ปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้ คัดจมูก มีการมองเห็นภาพซ้อน หรือตาบอดสี ซึ่งอาการที่ส่งผลไปถึงการมองเห็นภาพเสื่อมลงนั้น จะพบในการใช้ยา เท่านั้น ในขณะที่ยาอีก 2 ชนิดยังไม่พบ
ในขณะที่ข้อควรระวังในการใช้ยาเหล่านี้ คือ ห้ามใช้ยาทั้ง 3 ตัวนี้กับผู้ป่วยโรคหัวใจ ที่มีความเสี่ยงหัวใจขาดเลือดหรือหัวใจวาย และผู้ที่ใช้ยาในกลุ่ม Nitroglycerin หรือยาที่มีส่วนผสมของไนเตรท เพราะตัวยาทั้งสองชนิดนี้จะเสริมฤทธิ์กัน มีผลต่อหลอดเลือดหัวใจ ทำให้เลือดไม่สามารถกลับไปเลี้ยงหัวใจได้ตามปกติ เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้ รวมถึงผู้ที่มีความดันโลหิตสูงในปอด อาจมีปฏิกิริยากับ เพราะยาจะไปทำให้ความดันโลหิตลดลงสู่ระดับที่ไม่ปลอดภัย นอกจากนี้ยาสามารถเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย
เพราะฉะนั้น หลังจากที่ได้กินยาเข้าไปแล้วนั้น และยาได้ออกฤทธิ์จนสามารถทำกิจกรรมทางเพศจนเสร็จสิ้นแล้ว ให้สังเกตอาการข้างเคียงของตนเองด้วยว่า มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับเราบ้าง หากมีอาการต่าง ๆ ตามที่กล่าวไป และทิ้งเวลานานหลายชั่วโมงยังไม่หายได้เอง หรืออาการผิดปกติดังกล่าวเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น ควรหยุดใช้ยานี้ทันที และรีบไปพบแพทย์ รวมถึงหากหลังจากใช้ยาแล้วมีการแข็งตัวของอวัยวะเพศที่กินเวลานานกว่าสี่ชั่วโมง หลังจากหมดฤทธิ์ยาไปแล้วนั้น คุณกำลังมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะอวัยวะเพศชายแข็งค้าง (Priapism) ที่เป็นความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับยารักษา ED เหล่านี้ทั้งหมด ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นได้
การหาซื้อยา in thailand kaufen นั้นไม่ใช่เรื่องยาก ซึ่งหากว่าคุณไม่สามารถที่จะมีความสุขกับคนที่รักได้ การใช้ยาเป็นตัวช่วยก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและปลอดภัย แต่ต้องศึกษาวิธีการใช้ยาให้ถูกต้อง และใช้ในปริมาณที่กำหนด เพื่อจะได้ไม่ส่งผลเสียในระยะยาวต่อสุขภาพของคุณ และอย่าลืมเลือกซื้อร้านที่เชื่อถือและไว้ใจได้ เพื่อประสิทธิภาพของยาที่ดีและเพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายของเราด้วย